กิจกรรมครั้งที่ 4 วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ.2557
เรื่อง Staffing
1. หลักในการจัดคนเข้าทำงานมีอะไรบ้าง
ตอบ หลักในการบริหารงานบุคคล แบ่งเป็น 2 ระบบ ได้แก่
1. ระบบคุณธรรม (Merit System)เป็นระบบการบริหารบุคคลที่อาศัยความรู้ ความสามารถของบุคคลเป็นหลัก ไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ส่วนตัว มีลักษณะสำคัญดังนี้
1.1 หลักความเสมอภาค (Equality Opportunity) เป็นการให้โอกาสที่เท่าเทียมกันแก่บุคคลทั้งในการเข้าสู่การเป็นราชการและอยู่ในระหว่างการเป็นข้าราชการ ซึ่งเป็นแนวคิดตามหลักประชาธิปไตยที่ให้สิทธิเสมอภาคแก่บุคคลภายในขอบเขตของกฎหมาย โดยถือว่าทุกคนจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาคด้วยคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ที่อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน
1.2 หลักความสามารถ (Competence) เป็นการถือความสามารถของบุคคลเป็นสำคัญ เพื่อให้เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ และต้องสามารถใช้ความรู้มาปฏิบัติงานให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมได้อย่างเต็มที่
1.3 หลักความมั่นคง (Security of Tenure) ซึ่งต้องได้รับการยอมรับและคุ้มครองตามกฎหมาย คือ จะไม่ถูกปลดออกหรือไล่ออกจากงานโดยไม่มีเหตุที่พิสูจน์ได้ หลักการนี้มุ่งให้ข้าราชการเกิดความมั่นคงถาวรในอาชีพ และเกิดความรู้สึกมั่นคงที่จะแสวงหาความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ของตน โดยไม่ต้องคำนึงถึงเหตุผลส่วนตัวหรือทางการเมือง
1.4 หลักความเป็นกลางทางการเมือง (Political Neutrality)การที่ข้าราชการประจำต้องเป็นกลางทางการเมืองและสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มความสามารถ โดยไม่ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของพรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใด แต่ยังคงสิทธิทางการเมืองเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป
2. ระบบอุปถัมภ์ (Patronage System) เป็นระบบดั้งเดิม โดยมีแหล่งกำเนิดมาจากจีนโบราณ ที่มักใช้การสืบทอดทางสายเลือด รวมไปถึง การนำสิ่งของมาแลกตำแหน่ง ลักษณะที่สำคัญได้แก่
1) ไม่คำนึงถึงความรู้ ความสามารถ
2) ไม่เปิดโอกาสที่เท่าเทียมกันในการเลือกสรร
3) มักมีอิทธิพลทางการเมืองเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของหน่วยงาน
2. การสรรหา คัดเลือกเพื่อบรรจุแต่งตั้ง มีขั้นตอนอย่างไร
ตอบ การจัดสรรตำแหน่งออกเป็นประเภท หมวดหมู่ ตามลำดับชั้น เพื่อความสะดวกในการสรรหา บรรจุ แต่งตั้ง เลื่อนขั้น และเลื่อนตำแหน่ง แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. จำแนกตำแหน่งตามลักษณะตำแหน่ง (Position Classification) เป็นการจำแนกตำแหน่งโดยถือลักษณะความรับผิดชอบของตำแหน่งเป็นสำคัญ เช่น กลุ่มเจ้าหน้าที่ธุรการ การเงิน นิติกร วิศวกร เป็นต้น
2. การจำแนกตำแหน่งตามลักษณะยศ (Rank Classification) เป็นการจำแนกตำแหน่งตามตำแหน่งที่ประกอบกับชั้นยศ ใช้กับทหาร ตำรวจ
3. การจำแนกตำแหน่งตามลักษณะชั้นยศทางวิชาการ (Academic Rank Classification) จำแนกตามคุณลักษณะความเชี่ยวชาญ วิชาการ เช่น ครู อาจารย์
3. บุคลากรด้านศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ มีภารกิจที่สำคัญอะไรบ้าง
ตอบ -การจัดหาสื่อประเภทต่างๆ ไว้สาหรับบริการ
- การผลิตสื่อเพื่อนามาใช้ในการเรียนการสอน
- การจัดระบบ จัดเก็บ แยกหมวดหมู่และจัดทาทะเบียน
- การบริการให้ยืมวัสดุ เครื่องมืออุปกรณ์
- การให้คาปรึกษา แนะนาการใช้และการผลิตสื่อ
- การวิจัยและพัฒนาสื่อ
1. บุคลากรทางวิชาชีพ (Professional Staff)
2. บุคลากรกึ่งวิชาชีพ (Paraprofessional Staff) บุคลากรกึ่งวิชาชีพ คือ บุคคลที่ได้วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพโดยมีหน้าที่ช่วยเหลือบุคลากรทางวิชาชีพเกี่ยวกับด้านเทคนิคหรือด้านบริการ
3. บุคลากรที่ไม่มีความรู้ทางวิชาชีพ (Non-professional Staff) บุคลากรประเภทนี้ทำหน้าที่ทางด้านธุรกิจ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ซึ่งจะมีคุณวุฒิหลากหลายจะใช้ความรู้ความชำนาญเฉพาะในหน้าที่ของตน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจานวนบุคคลในแต่ละประเภทจะมีมากหรือน้อยย่อมขึ้นอยู่กับนโยบาย ขนาดหรือปริมาณของงาน ขอบเขตของการให้บริการ ลักษณะของระบบงานบริการ จานวนผู้ใช้บริการ และง บประมาณของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้แต่ละแห่งเป็นสำคัญ
4. ให้หาตัวอย่างภาระหน้าที่ของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้มา 3 ภาระหน้าที่พร้อมชื่อตำแหน่งงาน และอ้างอิง
ตอบ สำนักทรัพยากรการเรียนรู้คุณหญิง อรรถกระวีสุนทร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
กิจกรรมยืมคืนทรัพยากรสารสนเทศ
กิจกรรมการค้นคว้าวิจัย
กิจกรรมประชาสัมพันธ์
กิจกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษา
อ้างอิง :http://www.clib.psu.ac.th/home/index.phpoption=com_content&view=article&id=1771&Itemid=44&lang=th
ฝ่ายพัฒนาระบบสารสนเทศ
กิจกรรมพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ
กิจกรรมวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศภาษาต่างประเทศ
กิจกรรมวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศภาษาไทย
กิจกรรมวารสารและหนังสือพิมพ์
กิจกรรมดรรชนีวารสาร
กิจกรรมข้อมูลภาคใต้และสิ่งพิมพ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
กิจกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ
กิจกรรมสแกนเอกสาร
กิจกรรมเย็บเล่มและซ่อม
ฝ่ายสนันสนุนงานบริหาร
กิจกรรมนโยบายและแผน
กิจกรรมธุรการทั่วไป
กิจกรรมการเจ้าหน้า
กิจกรรมคลังและพัสดุ
กิจกรรมอาคารสถานที่
เรื่อง Directing
1. การอำนวยการมีบทบาทในการจัดการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อย่างไร
ตอบ การอำนวยการในการจัดการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ ต้องพิจารณาถึงปัญหาและความก้าวหน้าของหน่วยงานโดยมุ่งสู่เป้าหมายขององค์กรเป็นหลักในการตัดสินใจ ดังนั้นการอำนวยการจึงต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ในการอำนวยการ
2. รูปแบบของการตัดสินใจมีกี่ประเภท
ตอบ รูปแบบของการตัดสินใจมี 2 ประเภท
1. การตัดสินใจโดยบุคคลคนเดียว
2. การติดสินใจโดยกลุ่ม แบ่งเป็น 3 วิธี
2.1. สมาชิกเพียงเสนอข้อคิดเห็น ผู้บริหารตัดสินใจขั้นสุดท้าย
2.2. ตัดสินใจโดยได้ข้อยุติเชิงเสียงข้างมาก Majority
2.3. ตัดสินใจโยดได้ข้อยุติเป็นเอกฉันท์ Consensus
3. ลักษณะของการอำนวยการที่ดีมีอะไรบ้างตอบ ลักษณะการอานวยการที่ดี
ต้องชัดเจน
ให้คำสั่งมีลักษณะแน่นอน ไม่ใช่ตามอารมณ์
ถ้าผู้รับคำสั่งมีท่าทีสงสัย ให้ขจัดความสงสัยทันที
ใช้นำเสียงให้เป็นประโยชน์
วางสีหน้าเข้มแข็งเอาจริงเอาจัง
ใช้ถ้อยคำอย่างสุภาพ
ลดคำสั่งที่มีลักษณะ “ห้าม” การกระทำให้เหลือน้อยที่สุด
อย่าออกคำสั่งในเวลาเดียวกัน มากเกินไป
ต้องแน่ใจว่าการออกคำสั่งหลาย ๆ คำสั่ง ไม่ได้ขัดแย้งกันเอง
ถ้าผู้รับปฏิบัติ ปฏิบัติไม่ได้ อย่าบันดาลโทสะ พิจารณาตนเองว่าเหตุใดคำสั่งไม่ได้ผล อย่าโยนความผิดให้ผู้รับคำสั่ง
มาตรฐานงานของนักวิชาการโสตทัศนศึกษา
1. นักวิชาการโสตทัศนศึกษาทีคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งอะไรบ้าง
ตอบ นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 3
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ได้รับปริญญาตรีหรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้
นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 4
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
1. มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา
3 และได้ดำรงตำแหน่งในระดับ 3 หรือ เทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า
2 ปี โดยจะต้องปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานโสตทัศนศึกษา หรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า
1 ปี หรือ
2. ได้รับปริญญาโทหรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้
นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 5
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
1. มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา
3 หรือนักวิชาการโสตทัศนศึกษา 4 และได้ดำรงตำแหน่งในระดับ 4
หรือเทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี โดยจะต้องปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานโสตทัศนศึกษา
หรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือ
2. มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา
3 และได้ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่า ระดับ 3 หรือเทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี โดยจะต้องปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานโสตทัศนศึกษา
หรือ งานอื่นที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า
1 ปี หรือ
3. ได้รับปริญญาเอกหรือเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้
นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 6
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
1. มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา
3 หรือนักวิชาการโสตทัศนศึกษา 4 หรือนักวิชาการ ราชการเกี่ยวกับงานโสตทัศนศึกษา หรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า
1 ปี หรือ
2. มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา
3 หรือนักวิชาการโสตทัศนศึกษา 4 หรือนักวิชาการโสตทัศนศึกษา
5 และได้ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ 4 หรือเทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า
4 ปี โดยจะต้องปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานโสตทัศนศึกษา หรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า
1 ปี
นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 7
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
1. มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา
3 หรือนักวิชาการโสตทัศนศึกษา 4 หรือนักวิชาการโสตทัศนศึกษา
5 และได้ดำรงตำแหน่งในระดับ 6 หรือเทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า
2 ปี โดยจะต้องปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานโสตทัศนศึกษา หรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า
1 ปี หรือ
2. มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา
3 หรือนักวิชาการโสตทัศนศึกษา 4 หรือนักวิชาการโสตทัศนศึกษา
5 และได้ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ 5 หรือเทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า
4 ปี โดยจะต้องปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานโสตทัศนศึกษา
หรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 8
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
1. มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา
3 หรือนักวิชาการโสตทัศนศึกษา 4
หรือนักวิชาการโสตทัศนศึกษา 5 และได้ดำรงตำแหน่งในระดับ 7 หรือเทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า
1 ปี โดยจะต้องปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานโสตทัศนศึกษา หรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า
1 ปี หรือ
2. มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา
3 หรือนักวิชาการโสตทัศนศึกษา 4
หรือนักวิชาการโสตทัศนศึกษา 5 และได้ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ 6 หรือเทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยจะต้องปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานโสตทัศนศึกษา
หรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 9
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
1. มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา 3 หรือวิชาการโสตทัศนศึกษา 4 หรือวิชาการโสตทัศนศึกษา
5 และได้ดำรงตำแหน่งในระดับ 8 หรือเทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยจะต้องปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานโสตทัศนศึกษา หรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า 1
ปี หรือ
2. มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา 3 หรือนักวิชาการโสตทัศนศึกษา
4 หรือนักวิชาการโสตทัศนศึกษา 5 และได้ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ
7 หรือเทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
โดยจะต้องปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานโสตทัศนศึกษา หรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า
1 ปี
2. ชื่อตำแหน่งในสายงานและระดับตำแหน่ง นักวิชาการโสตทัศนศึกษามีกี่ระดับ อะไรบ้าง
ตอบ ตำแหน่งในสายงานนี้มีชื่อและระดับของตำแหน่งดังนี้ คือ
นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 3 ระดับ 3 นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 4 ระดับ 4 นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 5 ระดับ 5 นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 6 ระดับ 6 นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 7 ระดับ 7 นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 8 ระดับ 8 นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 9 ระดับ 9
3. ให้นิสิตยกตัวอย่าง การประกาศรับสมัครงานที่รับตำแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา ว่าต้องมีคุณสมบัติอย่างไร พร้อมแหล่งอ้างอิง URL
ตอบ ตัวอย่าง วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยบูรพา รับ นักวิชาการโสตทัศนศึกษา (บัดนี้ - 18 พฤศจิกายน 2553)
รายละเอียด : ด้วยวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยบูรพา มีความประสงค์จะรับสมัครคัดเลือกบุคคล เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานวิทยาลัย ตาแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา เลขที่อัตรา ๙๗๙๖ จำนวน ๑ อัตรา อาศัยอานาจตามคาสั่งมหาวิทยาลัยบูรพาที่ ๑๕๕๒/๒๕๕๒ ลงวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๒ เรื่อง การมอบอานาจให้รองอธิการบดี ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขต หรือหัวหน้าส่วนงานปฏิบัติการแทน จึงประกาศรับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานวิทยาลัย ดังรายละเอียดต่อไปนี้
๑. สังกัดที่เข้าปฏิบัติงานและตาแหน่ง
สำนักงานคณบดี วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยบูรพา
- ตำแหน่งนักวิชาการโสตทัศนศึกษา ๑ อัตรา (เลขที่อัตรา ๙๗๙๖)
๒. คุณสมบัติทั่วไปของผู้มีสิทธิ์สอบคัดเลือก
๒.๑ ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติตามความในข้อ ๑๐ ของระเบียบมหาวิทยาลัยบูรพาว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของมหาวิทยาลัย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑ ดังต่อไปนี้
(ก) คุณสมบัติทั่วไป
(๑) มีสัญชาติไทย
(๒) มีอายุไม่ต่ากว่าสิบแปดปี และไม่เกินหกสิบปีบริบูรณ์
(๓) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
(๔) สาเร็จการศึกษาตามที่ ก.บ.บ. กำหนด
(ข) ลักษณะต้องห้าม
(๑) เป็นผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง
(๒) เป็นคนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ หรือเป็นโรคที่ ก.บ.บ. กาหนด
(๓) เป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักงาน หรือถูกสั่งให้ออกจากงานไว้ก่อนตามข้อบังคับหรือกฎหมายอื่น
(๔) เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดี
(๕) เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(๖) เป็นบุคคลล้มละลาย
(๗) เคยจาคุก โดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก และพ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปี เว้นแต่เป็นโทษสาหรับความผิดที่ได้กระทาโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(๘) ผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิ จองค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
(๙) เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกเพราะกระทาผิดวินัยตามข้อบังคับนี้
(๑๐) เคยกระทาทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ หรือเข้าปฏิบัติงานรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือกระทาการทุจริตในการสอบระหว่าง การศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา
๒. คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง
๑. ได้รับปริญญาตรี หรือเทียบเท่าไม่ต่ากว่านี้ ทางด้านสาขาเทคโนโลยีการศึกษา,เทคโนโลยีสารสนเทศ, วิทยาการคอมพิวเตอร์, วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง
๒. มีความรู้ความสามารถด้านระบบเครือข่าย, อุปกรณ์เครือข่าย
๓. มีความรู้ในวิชาการเขียนชุดคาสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ ทางานอย่างเหมาะสมแก่การปฏิบัติงานในหน้าที่ได้ สามารถปรับปรุงและแก้ไขแฟ้มข้อมูล
๔. มีความรู้ความสามารถในการติดตั้งดูแลเครื่องแม่ข่ายคอมพิวเตอร์
๕. มีความรู้ความสามารถในวิชาการโสตทัศนศึกษาอย่างเหมาะสมแก่ปฏิบัติงานในหน้าที่
๖. มีความรู้ความสามารถควบคุมการผลิตวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดแสดงหรือบรรยาย และสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี และมีประสบการณ์ในด้านพัฒนาระบบงาน
๗. มีความรู้ความสนใจในเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อนามาประยุกต์ใช้ในงานให้ได้ประโยชน์สูงสุด
๘. มีทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้ในระดับดี
๓. เป็นผู้สาเร็จการศึกษา ได้รับใบรับรองคุณวุฒิแสดงว่าเป็นผู้สาเร็จการศึกษา และต้องผ่าน การพิจารณาอนุมัติจากผู้มีอานาจก่อนวันปิดรับสมัคร สาหรับใบรับรองซึ่งระบุว่า “กาลังเรียน” “รอผลการสอบ” วิทยาลัยนานาชาติจะไม่รับพิจารณา
๔. ต้องไม่เป็นผู้ที่ลาออกจากราชการตามโครงการเปลี่ยนเส้นทางชีวิต : เกษียณก่อนกาหนด
๕. วัน เวลา และสถานที่รับสมัคร ผู้ประสงค์จะสมัคร ขอรับใบสมัครและสมัครด้วยตนเอง ตั้งแต่วันที่ ๑๘ ตุลาคม – ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ณ สานักงานคณบดี อาคารวิทยาลัยนานาชาติ ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ อุปถัมภ์ ในวันและเวลาราชการ
๖. เอกสารและหลักฐานที่ต้องนามาในการสมัคร ต้องจัดเตรียมหลักฐานให้ตรงตามที่วิทยาลัยนานาชาติระบุไว้ หากไม่ครบหรือขาดอย่างใดอย่างหนึ่งจะไม่พิจารณา
๖.๑ รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก ไม่ใส่แว่นตาดา ขนาด ๑ นิ้ว ถ่ายครั้งเดียวกัน และถ่ายไม่เกิน ๖ เดือน จานวน ๒ รูป
๖.๒ หลักฐานการศึกษาฉบับจริงตามคุณสมบัติเฉพาะตาแหน่งที่ระบุไว้พร้อมสาเนา ๑ ฉบับ
๖.๓ กรณีชื่อ – ชื่อสกุล ในหลักฐานต่าง ๆ ไม่ตรงกันให้นาใบสาคัญการเปลี่ยนชื่อ – ชื่อสกุล ฉบับจริงมาแสดงพร้อมสาเนา จานวน ๑ ฉบับ
๖.๔ บัตรประชาชนฉบับจริงพร้อมสาเนา จานวน ๑ ฉบับ
๖.๕ ทะเบียนบ้านฉบับจริงพร้อมสาเนา จานวน ๑ ฉบับ
๗. ค่าธรรมเนียมการสมัคร จานวน ๔๐ บาท
๘. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือก
วันจันทร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓
๙. กาหนดการคัดเลือก
๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
๐๙.๐๐ – ๑๓.๓๐ น.
- สอบสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ
ณ อาคารวิทยาลัยนานาชาติ ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ อุปถัมภ์
๑๐. ประกาศผลการคัดเลือก
วันพุธที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ณ สานักงานคณบดี อาคารวิทยาลัยนานาชาติ ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ อุปถัมภ์ หรือทาง http://buuic.buu.ac.th
อนึ่ง ผู้ได้รับการคัดเลือก ต้องทาสัญญาจ้างพนักงานวิทยาลัย และสัญญาค้าประกัน ณ สานักงานคณบดี อาคารวิทยาลัยนานาชาติ ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ อุปถัมภ์ ระหว่างวันที่ ๑๓ – ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยจัดหาบุคคลดังนี้เป็นผู้ค้าประกันลงนามในสัญญาฯ ตามลาดับ ดังนี้
๑. บิดามารดา (ที่แท้จริง) หรือ
๒. พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกันของพนักงานวิทยาลัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น